พิซซ่า นั้นมีประวัติที่ยาวนานมาตั้งแต่สมัยยุคหินแล้ว ซึ่งนักประวัติศาสตร์ได้ค้นพบหลักฐานชิ้นสำคัญจากเหตุการณ์การระเบิดของภูเขาไฟที่ปอมเปอี (Pompeii) ซึ่งได้พบว่ามีการประดิษฐ์เตาถ่านสำหรับอบและทำขนมปัง ซึ่งมีหลักฐานอีกว่ายังมีชิ้นขนมปังขนาด 7 กิโลกรัมที่ทำอยู่ก่อนเกิดเหตุการณ์มหาวิปโยคขึ้น
ต่อมาได้มีการสันนิษฐานว่าชาวนโปเลียนนิยมทานขนมปังโบราณมากว่า 700 ปี ต่อมาในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 1,700 ได้มีการประยุกต์เอามะเขือเทศและสมุนไพรใส่ลงไปบนขนมปัง แล้วนำไปอบด้วยความร้อน 340C ซึ่งต่อมาพิซซ่าได้เริ่มแพร่หลายมากยิ่งขึ้นตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยชาวอเมริกันได้หัดทำ #พิซซ่า และได้ริเริ่มดัดแปลงประยุกต์หน้าพิซซ่า จนกระทั่งพิซซ่าการเป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลกจนเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเมนูฟาสต์ฟู้ดที่คิดอะไรไม่ออกก็โทรกริ๊งเดียวแล้วสั่งได้เลย
พิซซ่านั้นมีอยู่มากมายหลากหลายหน้ามาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น
🍕 พิซซ่า Margherita เป็นพิซซ่าพื้นฐานที่มีหน้า 3 สี ซึ่งเป็นสีของธงชาติอิตาลี ได้แก่ ขาว เขียว และแดง สีขาวจากชีส สีแดงจากมะเขือเทศ และสีเขียวจากใบโหระพาอิตาเลียน
🍕 New York-Style Pizza พิซซ่าขอบบางสุดกรอบ แต่เนื้อด้านในนุ่มจนนิยมพับแล้วนำมารับประทาน
🍕 Detroit Pizza พิซซ่ารูปสี่เหลี่ยม ราดหน้าด้วยซอสมารินาร่า อบในกระทะทาน้ำมันมีความกรอบนิด ๆ
🍕 California Pizza พิซซ่าชนิดนี้ใช้แป้งแบบเดียวกับพิซซ่าต้นตำรับ แต่มีความพิเศษคือมีการเพิ่มวัตถุดิบแปลก ๆ ผสมด้วยอาทิ เนื้อเป็ด แซลม่อนรมควัน
แป้งโด คือหัวใจหลักสำคัญที่จะทำให้ #พิซซ่า นั้นออกมาสมบูรณ์ ซึ่งก่อนที่จะได้แป้งโดนั้นต้องมีการผสมและตีแป้งให้เข้ากันเพื่อให้ได้เนื้อแป้งที่ดี มีความสมบูรณ์แบบ มีความชื้นที่เหมาะสม เพื่อนำไปทำแป้งพิซซ่าต่อไป
พบกับ Famag IM-Series ที่จะมาช่วยทำให้การทำเมนูแป้ง ๆ เป็นเรื่องง่ายและรังสรรค์ได้ออกมาสมบูรณ์แบบด้วยปณิธานของ Famag ที่ว่า
“The Perfect match between Innovation and Tradition”
ด้วยระยะเวลากว่า 35 ปี (ตั้งแต่ปี 1986) ที่พิสูจน์ตัวตนของ Famag ที่มุ่งพัฒนานวัตกรรมที่ควบคู่กับวัฒนธรรมที่ทำให้ Mr. Giuseppe Grillo (ผู้ก่อตั้ง) พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยความใส่ใจด้วยวัสดุที่ดีที่สุด รวมถึงเทคโนโลยีที่นำสมัยเพื่อการันตีว่า “สินค้านั้นมีคุณภาพและสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน”